วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2556
การอบรมบ่มเพาะในความคิดของปัญญาชนฝ่ายปกครองของสยามทศวรรษ 1900-1920
โดย ภู ร้อยแก้ว
ดาวน์โหลดได้ที่
http://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:98781

บทคัดย่อ

          การอบรมบ่มเพาะเด็กของชาวสยามในสมัยจารีต เป็นกิจกรรมซึ่งไม่ได้ขึ้นต่อรัฐ และไม่ได้อยู่ในความสนใจของผู้ปกครองรัฐ เป็นสิ่งที่กระทำกันในวัดและครอบครัวของเด็กเป็นหลัก รัฐและผู้ปกครองรัฐไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมการบ่มเพาะอบรมเด็ก จนกระทั่งเมื่อล่วงเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 20 จึงปรากฏว่ารัฐเริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทโดยตรงในการบ่มเพาะเด็ก เพื่อกล่อมเกลาเด็กให้เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดีของรัฐ อันเป็นผลโดยตรง มาจากการเข้ามามีบทบาทในการบริหารการศึกษา ของนักการศึกษารุ่นใหม่ของสยามที่ได้รับอิทธิพลความคิดด้านการจัดการศึกษามาจากทวีปยุโรป หรือผ่านการฝึกอบรมด้านการศึกษามาจากต่างประเทศ
          ในชั้นต้น เมื่อเริ่มเกิดการศึกษาในระบบโรงเรียน ในช่วงต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น การศึกษาในระบบโรงเรียน เป็นเพียงการผลิตคนเข้าสู่ระบบราชการไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการผลิตพลเมืองที่ดีของรัฐแต่อย่างใด ทว่า นักการศึกษาที่มีประสบการณ์ด้านการจัดการศึกษาจากต่างประเทศกลับนำเสนอแม่แบบการศึกษาที่แตกต่างออกไป นักการศึกษารุ่นใหม่เหล่านี้ ได้พยายามผลักดันนโยบายการจัดการศึกษาแผนใหม่ อันมีลักษณะของกรอบวิธีการคิดในแบบของกระแสโรแมนติกของเยอรมัน กล่าวคือ เห็นว่าเด็กคือหน่ออ่อนที่จะเติบโตขึ้นมาอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดูฟูมฟัก และการอบรมของผู้ใหญ่รูปแบบการจัดการศึกษาที่มุ่งขจัดเชื้อร้ายในตัวเด็กไม่ให้เติบโตขึ้น พร้อมกับมุ่งกล่อมเกลาเด็กให้เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองดี ตามแม่แบบที่เป็นที่พึงปรารถนาของรัฐสมัยใหม่ เพื่อให้สัญชาตญาณความเป็นสัตว์ในตัวเด็กทำงานอย่างสอดประสานกันได้เป็นอย่างดีกับการเป็นพลเมืองที่ดีของรัฐ
          รูปแบบการจัดการศึกษาข้างต้น แม้จะได้รับการสนับสนุนในส่วนของวัตถุประสงค์และเป้าหมาย จากสมาชิกอาวุโสในฝ่ายบริหารซึ่งให้ความสนใจแก่กิจการด้านการศึกษา เนื่องจากมีกรอบคิดและทัศนะการมองเรื่องคนกล่อมเกลาบ่มเพาะคนที่คล้ายกัน แต่ในทางปฏิบัติ กลับปรากฏว่า แนวทางการปฏิบัติที่นักการศึกษารุ่นใหม่นำเสนอ ประสบปัญหาในการนำไปปฏิบัติเพราะแนวทางดังกล่าวถูกมองว่าสิ้นเปลือง ในขณะที่คณะผู้บริหารของสยามในเวลานั้น ไม่เห็นว่าการลงทุนด้านการศึกษา สัมพันธ์กับคุณภาพของกระบวนการอบรมบ่มเพาะเด็ก ซึ่งทำให้กิจกรรมการบ่มเพาะขัดเกลาเด็กในระบบโรงเรียน ในช่วงต้นที่เริ่มสร้างระบบดังกล่าว ยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ในวงกว้าง และมีมาตรฐานที่เท่าเทียมกันทั่วทั้งพระราชอาณาจักร