สารนิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2540
องค์ความรู้เรื่องจีนในประเทศไทย ตั้งแต่ ค.ศ.1975-1995
โดย นารีรัตน์ ปริสุทธิวุฒิพร
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:118603
บทคัดย่อ
องค์ความรู้เรื่องประเทศจีนที่ตีพิมพ์ในประเทศไทยตั้งแต่ปีค.ศ.1975-1995 จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะสัมพันธ์กับสภาพสังคมทั้งในระดับโลก ภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศจีนและสังคมภายในประเทศไทย
องค์ความรู้เรื่องประเทศจีนที่ดีพิมพ์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975-1995 ได้แบ่งการศึกษาเป็น 3 ด้านคืองานเขียนด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม-วัฒนธรรม และได้แบ่งการศึกษาเป็น 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงค.ศ.1975-1985 และช่วงค.ศ.1985-1995 โดยทั้ง 2 ช่วงเวลานี้มีการแตกต่างทั้งในส่วนเนื้อหาของการเขียน และแนวความคิดที่สอดแทรกในงานเขียนเหล่านั้น
งานเขียนด้านการเมือง จากการสำรวจของผู้วิจัยมีประมาณ 550 เรื่อง โดยงานเขียนในช่วงปีค.ศ. 1975-1985 มีมากกว่างานเขียนในช่วงปีค.ศ.1985-1995 ทั้งนี้มาจากการเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในประเทศจีน และในช่วงแรกสังคมโลกขังอยู่ในภาวะสงครามเย็น เมื่อประเทศจีนหันมาให้ความสนใจเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ ประกอบกับการสิ้นสุดของสงครามเย็น ความหวาดกลัวว่าจีนจะสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ได้หมดไป งานเขียนในช่วงหลังจึงได้เปลี่ยนมาเป็นการติดตามสถานการณ์การเมืองภายในประเทศจีน
งานเขียนด้านเศรษฐกิจ งานเขียนประเภทนี้มีประมาณ 368 เรื่อง โดยงานเขียนในช่วงปี ค.ศ.1985-1995 จะมีมากกว่าช่วงปี ค.ศ.1975-1985 ทั้งนี้มาจากความสนใจในด้านการเป็นแหล่งลงทุนของจีน และความสนใจจีนในฐานะที่จีนกำลังมีบทบาทในเวทีเศรษฐกิจโลก งานเขียนทั้ง 2 ช่วงเวลามีความแตกต่างกัน โดยงานเขียนในปี ค.ศ.1975-1985 ผู้เขียนส่วนใหญ่สนใจประเทศจีนในด้านความสัมพันธ์ทางการค้า ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการเมืองที่แตกต่างกันด้วย จนเมื่อเติ้ง เสี่ยวผิงนำนโยบาย 4 ทันสมัยมาใช้ ทำให้การติดต่อกับต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจมีสูงมากขึ้น งานเขียนด้านเศรษฐกิจในช่วงนี้จึงสนใจประเทศจีนในประเด็นการยอมรับเทคโนโลยีและความช่วยเหลือต่าง ๆ จากประเทศทุนนิยม และจีนกำถังปรับเปลี่ยนประเทศเป็นทุนนิยม
เมื่อมาถึงงานเขียนในช่วงหลัง คือ ค.ศ.1985-1995 งานเขียนเริ่มให้ความสนใจในด้านการค้า การลงทุนกับประเทศจีน ซึ่งจีนกำลังอยู่ในยุคของนโยบาย 4 ทันสมัย งานเขียนในช่วงนี้จะมีหลากหลายประเด็น เช่น การขยายการลงทุน การเปิดให้ต่างประเทศเข้าไปลงทุนในประเทศจีน การที่จีนเตรียมเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ จนถึงเรื่องเกี่ยวกับชาวจีนโพ้นทะเลที่เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศจีนไปสู่การเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
ในส่วนงานเขียนด้านสังคม-วัฒนธรรม ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1975-1995 มีประมาณ 364 เรื่อง โดยงานเขียนในช่วงหลังคือช่วง ค.ศ.1985-1995 จะมีมากกว่า งานเขียนในด้านนี้ทั้ง 2 ช่วงเวลา มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะงานเขียนด้านวัฒนธรรม งานเขียนด้านวัฒนธรรมในช่วงแรกจะสนใจวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนจีนภายใต้การปกครองในระบอบสังคมนิยม ส่วนงานเขียนด้านวัฒนธรรมอื่น ๆ นั้น มักจะเขียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของชาวจีนในประเทศไทยในลักษณะความเป็นคนต่างวัฒนธรรม ซึ่งจะแตกต่างกับง่านเขียนในช่วงหลังที่นำเสนอในลักษณะของความเป็นคนในวัฒนธรรมนั้น ๆ และจะมีการกล่าวเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ตั้งแต่จุดกำเนิดของวัฒนธรรมที่มาจากประเทศจีน เชื่อมโยงถึงชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก รวมทั้งชาวจีนในประเทศไทยด้วย
ส่วนงานเขียนในด้านสังคมทั้งช่วงปี ค.ศ. 1975-1985 และช่วงปี ค.ศ.1985-1995 นั้นให้ความสำคัญกับการรายงานความเคลื่อนไหวภายในสังคมจีน เช่น ความสนใจในการใช้สินค้าฟุ่มเฟือยของชาวจีน หรือการเกิดอาชญากรรมภายในประเทศจีน เป็นต้น
แนวโน้มงานเขียนทั้ง 3 ด้านนี้ งานเขียนด้านการเมืองเป็นงานเขียนที่มีแนวโน้มน้อยลง และมีประเด็นการศึกษาหรือแนวการศึกษาใหม่ ๆ น้อยที่สุด ส่วนงานเขียนด้านเศรษฐกิจและงานเขียนด้านสังคม-วัฒนธรรมเป็นงานเขียนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และหลากหลายขึ้นมากที่สุดโดยเฉพาะงานเขียนด้านวัฒนธรรม งานเขียนด้านวัฒนธรรมจีนที่มีการเขียนถึงกันมากในช่วงหลัง ๆ นี้จะเป็นวัฒนธรรมของชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก และชาวจีนในประเทศไทย โดยงานเขียนด้านวัฒนธรรมเหล่านี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ชาวจีนในประเทศไทยรู้จัก และคุ้นเคยมากกว่างานเขียนที่เป็นวิชาการอย่างในอดีต ซึ่งงานเขียนด้านวัฒนธรรมเหล่านี้จะสัมพันธ์กับความเป็นจริงของชาวจีนในประเทศไทยมากกว่างานเขียนด้านวัฒนธรรมในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเขียนและศึกษาในลักษณะทางวิชาการ นอกจากนี้ผู้เขียนงานด้านวัฒนธรรมนี้มีการเปลี่ยนแปลง โดยผู้เขียนส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่ได้สัมผัสและคุ้นเคยกับวัฒนธรรมจีนเหล่านั้นด้วยตนเอง
จากการเติบโตและความต้องการงานเขียนด้านเศรษฐกิจและงานเขียนสังคม-วัฒนธรรมเพิ่มขึ้นนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการประเด็นการศึกษาหรือมุมมองเรื่องเกี่ยวกับจีนใหม่ ๆ ซึ่งความต้องการเหล่านี้สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เรื่องจีนในสังคมไทยด้วย