สารนิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2548
พัฒนาการของชาตินิยมไต้หวัน ค.ศ. 1895-2004
โดย เมฆพัด อิสสระสงคราม
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:113749

บทคัดย่อ

สารนิพนธ์เรื่อง "พัฒนาการชาตินิยมไต้หวันค.ศ. 1895-2004" ฉบับนี้ศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้ไ้หวันไม่ต้องการรวมประเทศกับจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งๆ ที่ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ก็มีเชื้อสาย จีน และการรวมประเทศระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อได้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีสมมติฐานของการศึกษาสารนิพนธ์ฉบับนี้ คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวไต้หวันไม่ต้องการรวมประเทศกับจีนแผ่นดินใหญ่ คือความรู้สึกเป็นชาติที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่

ชาตินิยมได้หวันเกิดจากพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของได้หวันที่แยกเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นเข้ายึดครองในปีค.ศ.1895 ภายใต้การปกครองของรัฐบาล จักรวรรดินิยมญี่ปุ่นทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นของสังคมได้หวันสมัยใหม่ และเปิดโอกาสให้ชาวไต้หวันเริ่มพัฒนาความรู้สึกต้องการปกครองตนเอง และสร้างอัตลักษณ์ของความเป็นชาวได้หวันขึ้น เหตุการณ์จลาจลค.ศ.1947 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการเข้ามาของรัฐบาลพรรคชาตินิยมจีนในปีค.ศ.1945 เป็นเหตุการณ์ที่แสดงออกถึงความรู้สึกชาตินิยมของชาวไต้หวันอย่างชัดเจน ความแตกต่างระหว่างได้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้หวันได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาประเทศภายใต้รัฐบาลพรรคชาตินิยมจีนซึ่งอพยพเข้ามาจัดตั้ง รัฐบาลสาธารณรัฐจีนพลัดถิ่นในปีค.ศ.1949 พร้อมกับความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา เพื่อ ต่อต้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้ไต้หวันมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและชาวไต้หวันมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่มาก

ภายหลังจากสหรัฐอเมริกามีท่าที่ว่าจะเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ปีค.ศ. 1969 การถูกถอดถอนออกจากสมาชิกองค์การสหประชาชาติในปีค.ศ.1971 และการที่นานาชาติเริ่มหันมายอมรับนโยบายจีนเดียวของรัฐบาลจีนแผ่นใหญ่ส่งผลให้ไต้หวันและพรรคชาตินิยมจีนในได้หวันมีสถานภาพเป็นเพียงรัฐบาลท้องถิ่น เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวได้หวันดั้งเดิมและรัฐบาลพรรคชาตินิยมจีนรวมถึงชาวจีนอพยพพัฒนาความรู้สึกชาตินิยมไปในทิศทางเดียวกัน คือ ต้องรักษาสถานภาพที่เป็นเอกราชของได้หวันไว้ และปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตน ด้วยการเปิดเสรีทางการเมืองมากขึ้น เริ่มต้นจากการยกเลิกกฎอัยการศึก การพัฒนาขึ้นของระบบการเมืองแบบหลายพรรคชาวได้หวันดั้งเดิมเข้ามามีบทบาทในการเมืองระดับชาติทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมกับการพัฒนาอัตลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมในรูปแบบของความเป็นได้หวันดั้งเดิมขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนแผ่นดินใหญ่ได้เปิดประเทศมากขึ้น เศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการพึ่งพาทางเศรษฐกิจของได้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ชาวได้หวันส่วนใหญ่ก็ยังคงพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันและแสดงความต้องการรักษาสถานภาพของไต้หวันไว้เช่นเดิมมากกว่าที่จะตัดสินในรวมประเทศหรือแยกประเทศเป็นเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่ออนาคตของตนเองได้