วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2553
นโยบายรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับแรงงานเด็กในอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายในคริสต์ศตวรรษที่ 19
โดย ธิติพงศ์ มีทอง
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:122673

บทคัดย่อ

งานวิจัยชิ้นนี้ มุ่งศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคมที่สำคัญอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการ พัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายของอังกฤษในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนื่องจากการเติบโตของ อุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายนับเป็นรากฐานสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งในช่วงแรกของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในโลกตะวันตก อุตสาหกรรมประเภทนี้ได้สร้างมูลค่าการนำเข้าและการส่งออกอย่างมหาศาล จนทำให้บรรดาผู้ประกอบธุรกิจในประเทศหันมาเปิดโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายเป็นจำนวนมากและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม จนกระทั่งเจ้าของโรงงานสิ่งทอฝ้ายหลายคนได้กลายเป็นคหบดีที่ทรงอิทธิพลทั้งในทางเศรษฐกิจและทางการเมืองของประเทศอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาได้พบว่า แม้ว่าอังกฤษจะประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายภายในประเทศ แต่อีกด้านหนึ่งของสังคม อังกฤษในช่วงเวลานั้นกลับครอบคลุมไปด้วยความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในโรงงานสิ่งทอฝ้ายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แรงงานเด็กเป็นจำนวนมาก ทั้งแรงงานเด็กแบบเสรีที่ผู้ปกครองส่งมาทำงานในโรงงานและแรงงานเด็กฝึกงานตามเขตพื้นที่ ซึ่งเจ้าของโรงงานรับเข้ามา ได้หลั่งไหลเข้าไปในอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายเป็นจำนวนมาก พื้นที่ย่านอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายหลายแห่งมีการใช้แรงงานเด็กอย่างโหดร้ายทารุณ ไม่ว่าจะเป็นในด้านระยะเวลาการทำงาน สภาพแวดล้อมตลอดจนวิธีการปฏิบัติต่อเด็กเหล่านั้น ที่ส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

เรื่องราวการใช้แรงงานเด็กอย่างทารุณได้เริ่มเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สาธารณชนชาวอังกฤษมากขึ้นตามลำดับ บรรดานักปฏิรูปคนสำคัญต่าง ๆ ได้ออกมาเรียกร้องและรณรงค์ต่อต้านการใช้แรงงานเด็กอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวของนักปฏิรูปเหล่านี้ได้ส่งผลให้รัฐบาลในแต่ละคณะในช่วงเวลาดังกล่าวเข้ามาสำรวจและดูแลปัญหานี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ผลของความสำเร็จประการสำคัญ คือการออกพระราชบัญญัติโรงงาน ซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องตลอดศตวรรษที่ 19 โดยสาระสำคัญของการออกพระราชบัญญัติโรงงานเหล่านี้ก็เพื่อที่จะช่วยเหลือเด็กให้พ้นจากความโหดร้ายที่บรรดานายจ้างกระทำต่อพวกเขา ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ยังให้ความสำคัญกับมาตรการทางการศึกษา โดยการออกพระราชบัญญัติการศึกษาตามมา เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและปรับปรุงศักยภาพการดำเนินชีวิตในอนาคตของเด็กเหล่านี้ให้ดีขึ้นผลของการดำเนินนโยบายที่กล่าวมา มิได้จำกัดอยู่เพียงที่แรงงานเด็กในอุตสาหกรรมสิ่งทอฝ้ายเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงแรงงานเด็กโดยส่วนรวมในสังคมอังกฤษสมัยนั้นและในช่วงเวลาต่อมาด้วย