วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2556
พัฒนาการของอุตสาหกรรมไก่เนื้อในประเทศไทย พ.ศ. 2503-2527
โดย นิติศักดิ์ อัศวโชคอนันท์
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:91835

บทคัดย่อ

ก่อนทศวรรษ 2500 การผลิตไก่เนื้อในประเทศไทยยังเป็นการเลี้ยงแบบหลังบ้านและเป็นการผลิตที่ยังไม่ได้แยกออกจากการผลิตไก่ไข่ ต่อมาได้มีการส่งเสริมจากหน่วยงานรัฐให้ประชาชน หันมาเลี้ยงไก่ให้มากขึ้นด้วยการแจกไก่พันธุ์ดีและการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ในหมู่ประชาชน ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของชนชั้นนำในยุคนั้นว่า หากต้องการพัฒนาการเลี้ยงไก่ในประเทศไทย ก็จำเป็นต้องพึ่งพาและศึกษาหาความรู้ด้านเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่จากต่างประเทศ ช่วยให้เกิดการเลี้ยงไก่ขึ้นอย่างแพร่หลาย เกิดฟาร์มเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์ที่จำเป็นต้องใช้ไก่พันธุ์ดีและอาหารไก่ที่มีคุณค่าทางโภชนาการในการนำมาเลี้ยง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ต้องการและนำไปจำหน่ายเป็นรายได้ของครอบครัวขึ้นในทศวรรษ 2490 แต่การส่งเสริมของรัฐบาลไม่ได้ก่อให้เกิดการเลี้ยงไก่แบบฟาร์ม อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขึ้น และการขยายตัวของฟาร์มเลี้ยงไก่ยังเป็นไปอย่างค่อนข้างจำกัด เนื่องจากในขณะนั้นรัฐบาลยังประสบปัญหาด้านการหาตลาดให้กับสินค้าไก่เนื้อ การหาแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร และการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านสัตวบาลในการให้คำแนะนำเรื่องการเลี้ยงไก่แก่เกษตรกรได้อย่างทั่วถึง

อุตสาหกรรมไก่เนื้อในประเทศไทยได้เริ่มพัฒนาขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 2510 เป็นต้นมา โดยมีบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารสัตว์ซึ่งได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ก่อนทศวรรษ 2510 บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้เริ่มสะสมทุนมาจากธุรกิจการค้าพืชไร่ที่เริ่มขยายตัวในช่วงทศวรรษ 2500 และได้ร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติเพื่อประโยชน์ด้านเทคโนโลยีการผลิตลูกไก่พันธุ์ อาหารสัตว์ การเลี้ยงไก่ และการตลาด ตั้งแต่กลางทศวรรษ 2510 เป็นต้นมา ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านลูกไก่พันธุ์และสูตรอาหารไก่ที่ช่วยให้ไก่โตเร็ว มีระยะเวลาในการเลี้ยงสั้น และมีอัตราการแลกอาหารเป็นเนื้อที่ดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของวิทยาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเลี้ยงไก่เนื้อแบบอุตสาหกรรม

ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดและราคาตกต่ำในปีพ.ศ.2503 ส่งผลให้การเลี้ยงไก่เนื้อได้รับความนิยมมากขึ้น จนเกิดฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อโดยเฉพาะขึ้นอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และมีการนำลูกไก่เนื้อพันธุ์ดีจากบริษัทต่างประเทศเข้ามาเพาะพันธุ์จำหน่ายและเลี้ยงไว้เป็นไก่กระทง แต่ด้วยข้อจำกัดในการขยายพันธุ์ไก่ที่เป็นสินค้าของบริษัทต่างชาติเหล่านี้ ทำให้ฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อจำเป็นต้องพึ่งพากลุ่มบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์และลูกไก่พันธุ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดภาวะผันผวนของราคาไก่เนื้อในตลาด จนเกิดเป็นธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่แบบเกษตรพันธะสัญญา (contract farming) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาและการขยายตัวของอุตสาหกรรมไก่เนื้อในประเทศไทย

กลางทศวรรษ : 2510 บริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจฆ่าชำแหละเนื้อไก่ อันเป็นธุรกิจปลายน้ำในกระบวนการผลิตไก่เนื้อแบบครบวงจร ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วในสหรัฐอเมริกา บริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เหล่านี้ได้ใช้ความรู้ทาง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิตและการหาตลาดในต่างประเทศ โดยได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทต่างประเทศที่ได้ลงทุนร่วมกัน จัดตั้งบริษัทผลิตเนื้อไก่แช่เย็นเพื่อการส่งออกให้ได้มาตรฐานด้านความสะอาดและอนามัย จนไทยกลายเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นที่สำคัญรายหนึ่งของโลกได้ในกลางทศวรรษ 2520 โดยมีข้อได้เปรียบในการส่งออกสินค้าเหนือประเทศคู่แข่งในด้านค่าแรงและค่าขนส่งที่ต่ำ ระยะเวลาในการขนส่งน้อยกว่า และมีความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในญี่ปุ่น ขณะที่ผู้บริโภคในประเทศไทยก็ได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้าเนื้อไก่ที่มีราคาถูกลงและมีมาตรฐานด้านความสะอาดในกระบวนการผลิตที่ดีขึ้น